ลิโอเนล เมสซี่ กองหน้าตัวเก่งของทีมชาติอาร์เจนตินา ยังคงสร้างสถิติใหม่อย่างต่อเนื่องในโลกของฟุตบอล ล่าสุดเขาทำแฮตทริกในเกมทีมชาติได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์เทียบเท่ากับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยอดดาวยิงทีมชาติโปรตุเกส โดยทั้งคู่ทำแฮตทริกในเกมระดับทีมชาติได้ถึง 10 ครั้ง ซึ่งถือเป็นการทาบสถิติที่น่าทึ่งอีกครั้งสำหรับสองซูเปอร์สตาร์ของโลกฟุตบอล
ฟอร์มโหดของเมสซี่ในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก
เมสซี่สร้างผลงานสุดยอดในเกมฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนอเมริกาใต้ นัดล่าสุดที่พา ทีมชาติอาร์เจนตินา ถล่ม โบลิเวีย ด้วยสกอร์ขาดลอย 6-0 ในเกมนี้ เขาทำแฮตทริกได้อย่างเหนือชั้นและยังสามารถทำได้ถึง 2 แอสซิสต์ ส่งผลให้เขามีส่วนร่วมโดยตรงถึง 5 ประตู จาก 6 ประตู ที่ทีมทำได้ ถือเป็นการแสดงความสามารถที่ครบเครื่องสมกับที่ได้รับการยกย่องเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดตลอดกาล
ผลงานของเมสซี่ในเกมนี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่การทำประตูเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการสร้างโอกาสให้กับเพื่อนร่วมทีม โดยเขาทำได้ถึง 4 ครั้งในการสร้างโอกาส และ 2 ครั้งเป็นโอกาสทอง ซึ่งแสดงถึงความเป็นนักเตะที่ไม่ได้มีดีแค่การยิงประตู แต่ยังมีวิสัยทัศน์ที่ยอดเยี่ยมในการสร้างเกมรุก
การทาบสถิติโรนัลโด้และความสำคัญของแฮตทริกนี้
การทำแฮตทริกในนัดล่าสุดทำให้เมสซี่ขึ้นไปทาบสถิติการทำแฮตทริกในเกมทีมชาติมากที่สุดเท่ากับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ 10 ครั้ง โดยโรนัลโด้ทำได้ครั้งล่าสุดในเกมที่ โปรตุเกส เอาชนะ ลักเซมเบิร์ก ไป 5-0 เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2021 ซึ่งสถิตินี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมของทั้งคู่ในระดับนานาชาติและความสม่ำเสมอในการทำประตูในแมตช์ที่มีความกดดันสูง
แม้ว่าเมสซี่จะประสบความสำเร็จในฐานะนักเตะที่สร้างชื่อเสียงมากมายในระดับสโมสร แต่การทำแฮตทริกในเกมระดับทีมชาติก็ถือเป็นอีกหนึ่งเกียรติที่ยิ่งใหญ่ การที่เขาสามารถทาบสถิติโรนัลโด้ได้ในเรื่องนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความเก่งกาจและความสามารถในการเล่นเกมรุกที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการทำประตูจากลูกยิงไกล การเล่นลูกตั้งเตะ หรือแม้กระทั่งการเลี้ยงผ่านคู่แข่ง
ใกล้ทาบสถิติการแอสซิสต์มากที่สุดตลอดกาลในเกมทีมชาติ
นอกจากสถิติการทำแฮตทริกแล้ว เมสซี่ยังใกล้ที่จะทาบสถิติการเป็นนักเตะที่ทำ แอสซิสต์ ในเกมระดับทีมชาติได้มากที่สุดตลอดกาลอีกด้วย โดยในเกมล่าสุด เขาทำไป 2 แอสซิสต์ ส่งผลให้ยอดรวมแอสซิสต์ในเกมทีมชาติของเขาเพิ่มเป็น 57 ครั้ง ขยับเข้าใกล้สถิติของ แลนดอน โดโนแวน ตำนานดาวเตะทีมชาติสหรัฐอเมริกาที่ทำไป 58 แอสซิสต์ เพียงแค่ 1 ครั้งเท่านั้น
การเข้าใกล้สถิตินี้แสดงให้เห็นถึงทักษะที่ครบเครื่องของเมสซี่ ซึ่งนอกจากจะเป็นยอดดาวยิงแล้ว เขายังมีความสามารถในการช่วยเพื่อนร่วมทีมสร้างโอกาสการทำประตูได้ดีอีกด้วย นั่นทำให้เขาเป็นนักเตะที่มีอิทธิพลในสนามอย่างมาก
ชาร์ตดาวซัลโวฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนอเมริกาใต้
ในส่วนของชาร์ตดาวซัลโว ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนอเมริกาใต้ เมสซี่ขึ้นนำเป็นอันดับ 1 ที่ 6 ประตู ตามมาด้วย ดาร์วิน นูนเญซ จากอุรุกวัยที่ทำไป 5 ประตู และ หลุยส์ ดิอาซ จากโคลอมเบียที่ทำได้ 4 ประตู นับว่าเมสซี่กำลังอยู่ในฟอร์มที่ร้อนแรงและมีโอกาสสูงที่จะจบการแข่งขันรอบคัดเลือกด้วยการเป็นดาวซัลโวสูงสุดของโซนนี้
ผลงานในสนามของเมสซี่ที่ยังคงยอดเยี่ยม
นอกจากการทำประตูและแอสซิสต์ เมสซี่ยังมีสถิติที่น่าประทับใจในเกมที่ชนะโบลิเวีย โดยเขามี จำนวนการยิงทั้งหมด 7 ครั้ง ซึ่ง 4 ครั้งตรงกรอบ ทำให้เห็นถึงความมั่นใจในการลุ้นทำประตูของเขา รวมถึงการสร้างโอกาสให้ทีม 4 ครั้ง การ เลี้ยงผ่านคู่แข่ง 2 ครั้ง และการ เรียกฟาวล์ได้ 3 ครั้ง ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแสดงถึงความสามารถอันยอดเยี่ยมของเขา
เมสซี่ยังทำได้ดีในการ ได้จับบอลในกรอบเขตโทษของคู่แข่ง 5 ครั้ง และ การชนะการดวลบนพื้น 6 ครั้ง แสดงถึงความเก่งกาจในเรื่องการอ่านเกมและความสามารถในการควบคุมบอลในพื้นที่สำคัญ
บทสรุป
การทำแฮตทริกครั้งล่าสุดของลิโอเนล เมสซี่ ไม่เพียงแต่จะทำให้เขาทาบสถิติคริสเตียโน่ โรนัลโด้ในการทำแฮตทริกในเกมทีมชาติได้มากที่สุดเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงถึงความเป็นผู้นำและความสามารถอันยอดเยี่ยมของเขาในสนาม เมสซี่ยังคงสร้างสรรค์ผลงานที่ยิ่งใหญ่ในทุกการแข่งขัน และดูเหมือนว่าเส้นทางการสร้างประวัติศาสตร์ของเขายังไม่สิ้นสุดแต่เพียงเท่านี้
คอบอลทั่วโลกยังคงจับตามองอย่างใกล้ชิด ว่าเมสซี่จะสามารถทำลายสถิติต่าง ๆ ได้อีกกี่รายการ และยังคงเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นว่าอนาคตของเขาในเกมระดับทีมชาติจะยิ่งใหญ่ขนาดไหน เพราะทุกครั้งที่เขาลงสนาม สิ่งที่แฟนบอลคาดหวังคือความมหัศจรรย์ที่จะเกิดขึ้นในเกมฟุตบอล